วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559

๓๓ องค์ประกอบของอาขยาต - วิภัตติ

๒. วิภัตติ.
            วิภัตติ คือ กลุ่มคำที่ทำหน้าที่จำแนกแบ่งแยกความหมายของคำกิริยาให้เป็นหมวดต่าง ๆ โดยช่วงเวลาที่เกิดกิริยานั้น ๆ เป็นต้น จึงได้ชื่อว่า วิภัตติ จัดว่า เป็นองค์ประกอบที่อยู่หลังสุดของคำกิริยานั้น และเป็นคนละกลุ่มกับวิภัตตินาม ดังนั้น จึงเรียกชื่อว่า วิภัตติอาขยาต มีศัพท์ทางวิชาการว่า อาขยาติกวิภัตติ ส่วนนามนั้น เรียกว่า นามิกวิภัตติ.
         วิภัตตินี้ จำแนกบทกิริยาออกเป็น ๕ ลักษณะ ดังนี้
         ๑.  ลักษณะของการกระทำ อันเป็นความหมายหลักของวิภัตติ เช่น ในรูปแบบที่ดำเนินไปตามปกติ, สั่งบังคับ, คาดหมาย, ไหว้วาน,  ยินยอมให้ทำ เป็นต้น
         ๒. กาล คือ ช่วงเวลาที่เกิดการกระทำ แบ่งออกเป็น อดีต อนาคต ปัจจุบัน
         ๓. บุรุษ คือ ประธานของกิริยานั้น ๆ ว่าเป็น คนอื่น, คนที่พูดด้วยและตัวผู้พูดเอง
         ๔. บท คือ บ่งถึงประธานของกิริยานั้น ๆ ว่า เป็นบทที่เจ้าของกิริยาอาขยาตนั้นเป็นตัวผู้กระทำเอง (กัตตา) หรือตัวผู้ถูกกระทำ (กัมม)
         ๕.  วจนะ คือ จำนวนของตัวประธานว่า เป็นคนเดียวหรือหลายคน.
         วิภัตติอาขยาตแบ่งออกเป็น ๘ หมวด คือ วัตตมานา ปัญจมี  สัตตมี ปโรกขา หิยยัตนี อัชชัตตนี  ภวิสสันติ กาลาติปัตติ.
         ในบรรดา ๘ หมวดนั้น    แบ่งออกเป็นหมวดละ ๑๒ ตัว  คือ  
            วัตตมานา - ติ  อนฺติ  สิ  ถ มิ  ม เต อนฺเต เส เวฺห เอ เมฺห,   
            ปัญจมี - ตุ อนฺตุ หิ ถ มิ ม ตํ อนฺตํ สฺสุ โวฺห เอ อามเส,  
         สัตตมี - เอยฺย เอยฺยุ ํ เอยฺยาสิ เอยฺยาถ เอยฺยามิ เอยฺยาม เอถ เอรํ เอโถ เอยฺยาโวฺห เอยฺยํ  เอยฺยาเมฺห
            ปโรกขา - อ อุ เอ ตถ อํ มฺห ตถ เร ตฺโถ โวฺห อึ เมฺห
            หิยัตตนี - อา อู โอ ตฺถ อํ มฺหา ตฺถ ตฺถุํ เส วฺหํ อึ มฺหเส,  
            อัชชัตตนี - อี อุํ โอ ตฺถ อึ มฺหา อา อู เส วฺหํ อํ เมฺห,        
            ภวิสสันติ - สฺสติ สฺสนฺติ สฺสสิ สฺสถ สฺสามิ สฺสาม   สฺสเต สฺสนฺเต สฺสเส สฺสเวฺห สฺสํ  สฺสาเมฺห,         
            กาลาติปัตติ - สฺสา สฺสํสุ  เสฺส สฺสถ สฺสํ สฺสามฺหา สฺสถ  สฺสึสุ  สฺสเส   สฺสเวฺห      สฺสึ  สฺสามฺหเส.
         ในแต่ละหมวดนั้น แบ่งออกเป็น ๒ บท คือ โดยที่ ๖ ตัวแรกในแต่ละหมวดเป็นปรัสสบท ส่วน ๖ ตัวหลังเป็นอัตตโนบท.
         ในแต่ละบทแบ่งออกเป็น ๓ บุรุษ คือ คู่แรกเป็นปฐมบุรุษ คู่ที่ ๒ เป็นมัชฌิมบุรุษ และคู่ที่ ๓ เป็นอุตตมบุรุษ.
         ในแต่ละบุรุษนั้น แบ่งออกเป็น ๒ วจนะ คือ ในแต่ละคู่ ตัวแรกเป็น เอกวจนะและตัวที่ ๒ เป็นพหุวจนะ. 
         รวมแล้วได้วิภัตติทั้งหมด ๙๖ ตัว สรุปพร้อมทั้งคำแปลประจำวิภัตติ และการใช้โดยสังเขป ได้ดังนี้

๑. วัตตมานา แปลว่า ... อยู่,   ย่อม.....,   จะ .....

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
ติ
อนฺติ
เต
อนฺเต
มัชฌิมบุรุษ
สิ
เส
เวฺห
อุตตมบุรุษ
มิ
เอ
เมฺห
        
๒. ปัญจมี แปลว่า จง ...,   ....เถิด.,   ขอจง .....

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
ตุ
อนฺตุ
ตํ
อนฺตํ
มัชฌิมบุรุษ
หิ
สฺสุ
โวฺห
อุตตมบุรุษ
มิ
เอ
อามเส
        

๓. สัตตมี แปลว่า ควร ..., พึง ....

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
เอยฺย
เอยฺยุํ
เอถ
เอรํ
มัชฌิมบุรุษ
เอยฺยาสิ
เอยฺยาถ
เอโถ
เอยฺยาโวฺห
อุตตมบุรุษ
เอยฺยามิ
เอยฺยาม
เอยฺยํ
เอยฺยาเมฺห
        

๔.  ปโรกขา แปลว่า ... แล้ว

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
อุ
ตฺถ
เร
มัชฌิมบุรุษ
เอ
ตฺถ
ตฺโถ
โวฺห
อุตตมบุรุษ
อํ
มฺห
อึ
เมฺห
        
๕. หิยยัตตนี แปลว่า ... แล้ว, ได้ ... แล้ว

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
อา
อู
ตฺถ
ตฺถุ 
มัชฌิมบุรุษ
โอ
ตฺถ
เส
วฺหํ
อุตตมบุรุษ
อํ
มฺหา
อึ
มฺหเส
        
๖. อัชชัตตนี แปลว่า ... แล้ว,   ได้ ... แล้ว

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
อี
อุํ
อา
อู
มัชฌิมบุรุษ
โอ
ตฺถ
เส
วฺหํ
อุตตมบุรุษ
อึ
มฺหา
อํ
เมฺห
        
๗. ภวิสสันติ แปลว่า จัก ...

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
สฺสติ
สฺสนฺติ
สฺสเต
สฺสนฺเต
มัชฌิมบุรุษ
สฺสสิ
สฺสถ
สฺสเส
สฺสเวฺห
อุตตมบุรุษ
สฺสามิ
สฺสาม
สฺสํ
สฺสาเมฺห
๘. กาลาติปัตติ แปลว่า  จัก... แล้ว,   จัก ... ได้แล้ว

ปรัสสบท
อัตตโนบท
บุรุษ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
เอกวจนะ
พหุวจนะ
ปฐมบุรุษ
สฺสา
สฺสํสุ
สฺสถ
สฺสิสุ
มัชฌิมบุรุษ
สฺเส
สฺสถ
สฺสเส
สฺสเวฺห
อุตตมบุรุษ
สฺสํ
สฺสามฺหา
สฺสึ
สฺสามฺหเส

***

         ข้อควรกำหนดในตอนนี้
         ๑) วิภัตติ เป็นเครื่องจำแนกธาตุให้เป็นกาล บท วจนะ และบุรุษ เป็นต้น
         ๒) วิภัตติ แบ่งออกเป็น ๘ หมวด ๆ ๑๒ ตัว รวม ๙๖ ตัว ซึ่งในแต่ละหมวด ยังแบ่งออกเป็นกาลเป็นต้น ความโดยพิสดารจักปรากฏข้างหน้า.
         ๓) กลุ่มคำศัพท์ที่ประกอบเป็นวิภัตติเหล่านี้ มีวิธีการใช้และการสำเร็จรูปต่าง ๆ กัน จะได้พบจริง ๆ เมื่อปรากฏอยู่ในรูปของประโยค ตอนนี้ไม่ต้องการให้จำได้ทั้งหมด เพียงแต่ให้ทราบว่า วิภัตตินี้ทั้งหมดเท่านี้ แล้วจะได้นำธาตุมาประกอบใช้โดยกาลและรูปแบบการเป็นไปโดยนัยนี้เท่านั้น แต่หากจำได้ทั้งหมดก็จะเป็นการสะดวกในการเรียนรู้.


****

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น