วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

๑๕. ภาคประธานของประโยค : คำนาม

บทที่ ๒ ภาคประธานของประโยค
         ก่อนจะขึ้นหัวข้อนี้ ลองทบทวนดูว่า ในแต่ละประโยคต้องประกอบไปด้วย ภาคประธาน อันได้แก่ คำนามทั้งหลาย เป็นต้น และภาคกริยา พร้อมทั้งบทขยายอีกเป็นจำนวนมากเข้ามาประกอบ เพื่อทำให้คำนามและกริยาเหล่านั้นมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น. ดังนั้น ก่อนจะเข้าใจถึงโครงสร้างประโยค ควรจะเข้าใจในศัพท์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นคำนามและกริยาเสียก่อน. จะเริ่มเรียนเรื่องภาคประธานและบทขยายเป็นลำดับแรก.

         ภาคประธาน อันได้แก่ นามศัพท์ชนิดต่าง ๆ ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนที่ ๑. จะได้ศึกษากันเป็นขั้นตอนเป็นลำดับ โดยนำนามนาม ขึ้นมากล่าวก่อนเป็นลำดับแรก.
        
×vØ

๔. คำนาม
         คำนาม คือ คำที่ใช้กล่าวถึงสิ่งต่าง ๆ โดยเป็นคำที่สามารถน้อมเข้าไปถึงสิ่งที่ตนใช้เรียกนั้น เช่น เมื่อพูดถึง ปุริโส บุรุษ คำว่า บุรุษ นี้จะน้อมไปถึงสี่งที่มีรูปร่างอย่างนี้ ๆ ดังนั้น คำว่า บุรุษ จึงจัดว่าเป็นคำนาม เพราะน้อมไปถึงสิ่งหรือเนื้อเรื่องที่พูดถึง
         คำนาม แบ่งออกเป็น ๖ พวก คือ
         ๑. นามนาม คำนามที่เป็นพวกคำนามแท้ ๆ
         ๒. สัพพนาม คำนามที่ใช้เป็นคำแทนคำนามต่าง ๆ ทั้งหมดได้
         ๓. คุณนาม คำนามที่เป็นคุณลักษณะของคำนาม สามารถทำให้คำนามมีความชัดเจนขึ้น ต่างกับคำอื่น
         ๔. สมาสนาม คำนามที่เกิดขึ้นจากการรวมคำนาม ๒ บทขึ้นไปเป็นบทเดียวแล้วมีความหมายต่างจากคำเดิม
         ๕. ตัทธิตนาม คำนามที่เกิดจากคำนามนั้นแหละ แต่ประกอบกับปัจจัยแล้วได้คำนามประเภทใหม่ขึ้นมา มีความหมายต่างจากคำเดิม
         ๖. กิตนาม คำนามที่เกิดจากการแปลงคำกริยาให้เป็นคำนามโดยประกอบกับอักษรที่เรียกว่า ปัจจัย
         ทั้ง ๖ นี้ ไม่ว่าจะเป็นคำนามประเภทไหน ๆ ก็ไม่พ้นกฏเกณฑ์ที่ว่า น้อมไปหาเนื้อเรื่องที่พูดถึงเสมอ.

×vØ


๔. องค์ประกอบของคำนาม
         ต้องปรับพื้นฐานความเข้าใจก่อนว่า คำพูดในภาษาบาลีนั้น ทุก ๆ คำ ย่อมประกอบไปด้วยองค์ประกอบย่อยๆ ลำพังเพียงคำนามยังสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน.  ดังนั้น คำนามที่สมบูรณ์แล้วแต่ละคำ เมื่อแยกย่อยออกไปแล้วจะเห็นองค์ประกอบอยู่ ๔ ประการ คือ
         ๑. ลิงค์  เพศหรือแบบของคำนามและเป็นคำเดิมที่แฝงอยู่ในคำนามที่มีวิภัตติแล้ว
         ๒. การันต์ เสียงสระที่ผสมกับพยัญชนะตัวสุดท้ายของคำนาม
         ๓. วิภัตติ  การจำแนกนามศัพท์ให้ทราบถึงความหมายและวจนะ
         ๔. วจนะ จำนวนของคำนาม
         จะขอยกคำนามที่มีองค์ประกอบเหล่านี้พร้อมมูลแล้วมาเป็นอุทาหรณ์สักเล็กน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ในการที่จะกล่าวหัวข้อที่มาถึงเป็นลำดับ
         ๑. ปุริโส       แปลว่า        อันว่าบุรุษ 
         ๒. ภตฺตํ          “             ซึ่งข้าว 
         ๓. หตฺเถน                    ด้วยมือ 
         ๔. ภิกฺขุสฺส       “             แก่พระภิกษุ
         ๕. อารามสฺมา               จากวัด
         ๖. พุทฺธสฺส                    ของพระพุทธเจ้า
         ๗. นครสฺมึ                    ในเมือง
         ๘.  กุมาร                     นี่แน่ะ เด็กน้อย
         ตอนนี้ให้กำหนดคำศัพท์ที่เป็นภาษาบาลีและที่แปลเป็นภาษาไทยไว้ก่อน อย่าเพิ่งสงสัยว่า ศัพท์พวกนี้มีความเป็นมาอย่างไร และทำไมต้องแปลอย่างนี้ ความจะกระจ่างไปเรื่อย ๆ.
         หัวข้อนี้ได้ข้อกำหนดว่า คำนามทั้งปวงต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ ๔ อย่าง คือ  ๑. ลิงค์ แบบ ๒. การันต์ เสียงท้าย  ๓. วิภัตติ อักษรที่จะจำแนกคำนามให้เห็นความหมายและจำนวน ๔. วจนะ จำนวน


×vØ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น