วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

๑๙. การประกอบวิภัตติให้เป็นคำนาม

๕. การประกอบวิภัตติให้เป็นคำนาม
         ก่อนจะนำคำนามประกอบกับวิภัตติ ต้องทราบเสียก่อนว่า ในแต่ละการันต์ของแต่ละลิงค์นั้น มีคำศัพท์ที่จัดว่าเป็นแบบอย่างในการจำแนก ดังตารางต่อไปนี้

ลิงค์
การันต์
คำศัพท์เพื่อเป็นแบบแจก
ปุงลิงค์
ปุริส      บุรุษ

อิ
อคฺคิ      ไฟ

อี
เสฏฺฐี      เศรษฐี

อุ
ภิกฺขุ       พระภิกษุ

อู
วิญฺญู      ผู้รู้วิเศษ
อิตถีลิงค์
อา
กญฺญา     นางสาวน้อย

อิ
รตฺติ        ราตรี

อี
อิตฺถี        ผู้หญิง

อุ     
รชฺชุ         เชือก

อู
วธู          หญิงสาว
นปุงสกลิงค์
กุล          ตระกูล

อิ
อกฺขิ        นัยน์ตา

อุ
วตฺถุ         วัตถุ
ไม่จำกัดลิงค์
โอ
โค            วัว

         พึงกำหนดไว้ในใจก่อนว่า การันต์ อันเป็นเสียงท้ายของศัพท์เหล่านี้นั่นแหละ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปแบบต่าง ๆ มากมายด้วยอำนาจของวิภัตติต่าง ๆมี สิ เป็นต้นนั่นเทียว. หากจะกล่าวโดยมุมกลับกัน ก็จะพบว่า คำศัพท์ต่าง ๆ ที่เราพบเห็นดังอุทาหรณ์ที่ยกมาให้ดูตามข้อ ๔ นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากการนำคำศัพท์อันเป็นลิงค์หรือคำเดิมเหล่านั้นมาประกอบกับวิภัตติต่าง ๆ แล้วได้ศัพท์ใหม่ขึ้นมา เช่น
         ปุริโส อันว่าบุรุษ คำว่า ปุริโส นี้เป็นคำนามที่ประกอบวิภัตติแล้ว มาจากลิงค์หรือศัพท์เดิม คือ ปุริส นั่นเอง โดยประกอบวิภัตติ คือ สิ แล้วด้วยอำนาจของ สิ ที่มาประกอบท้าย อ การันต์ จะต้องแปลงตัวเองเป็น โอ ดังนั้น จากเดิม ปุริส ที่มีเสียงท้ายเป็น อ ก็จะกลายเป็น โอ ไปจึงมีรูปว่า ปุริโส. แม้ในคำที่เหลือ เช่น ภตฺตํ ซึ่งข้าว, หตฺเถน ด้วยมือ ก็มีความเป็นไปเช่นนี้ ต่างกันเพียงวิภัตติและวิธีการที่จะนำมาประกอบเท่านั้น.
        

×vØ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น